มีใครอยู่บ้านของแสนสิริบ้างคะ
http://pantip.com/topic/30910067
คำแถลงการณ์จากแสนสิริ
http://pantip.com/topic/30914080
- ทำไมคอนโดของแสนสิริถึงขายหมาดรวดเร็วขนาดนี้ละครับ
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2007/10/R5925167/R5925167.html
ประวัติบริษัทแสนสิริ
เริ่มก่อตั้งขื้นในปี 2527 ประกอบธุรกิจหลักประเภทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อปี 2538 และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2539
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2527 โดยประกอบธุรกิจหลักประเภทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2539 โดยในระยะแรกของการดำเนินธุรกิจ บริษัทมุ่งเน้นด้านการพัฒนาโครงการอาคารชุดใจกลางเมืองเพื่อขาย หรือให้เช่า และอาคารสำนักงานให้เช่า ต่อมาในปี 2541 บริษัทได้ขยายการประกอบธุรกิจไปยังด้านงานบริหารอาคาร บริหารทรัพย์สินและการขาย โดยจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว ภายใต้ชื่อ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด (ซึ่งปัจจุบันได้บริหารงานโครงการต่าง ๆ ให้กับบริษัททุกโครงการ) อันส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทครอบคลุมครบวงจรมากยิ่งขึ้น และส่วนหนึ่งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มอันเป็นการส่งเสริมโครงการที่อยู่ในการพัฒนาของบริษัทด้วย และในปี 2542 - 2543 บริษัทได้ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจครั้งสำคัญจากเดิมที่เป็นการพัฒนาอาคารสูงในเขตใจกลางเมืองไปสู่การพัฒนาที่ดินแนวราบ อันได้แก่ โครงการบ้านจัดสรร ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเป็นอย่างดี จึงมีการขยายโครงการจัดสรรบ้านและที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในปี 2545 ต่อเนื่องปี 2546 บริษัทได้ลงทุนเพิ่มขึ้นอีกในธุรกิจโรงแรม อพาร์ตเมนต์ และอาคารพาณิชย์ให้เช่า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจและในทำเลท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเป็นการลงทุนโดยตรงและในรูปของการเข้าถือหุ้นและ ร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ
ในปี 2549 บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ไดเขาซื้อหุนสามัญของบริษัท แปซิฟค ชาเลนจ์ โฮลดิ้ง จำกัด (“แปซิฟค”) ในสัดส่วนร้อยละ 85 ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว โดยมีวัตถุประสงคเพื่อใหเป็นบริษัทยอยของแสนสิริ ซึ่งจะลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทสำนักงานให้เช่า ทั้งนี้ แปซิฟคเปนเจาของสิทธิการเช่าในอาคารสำนักงานให้เช่า สูง 4 ชั้น จำนวน 1 หลัง ชื่อ “อาคารภักดี” ตั้งอยูเลขที่ 2/2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยูในทำเลที่ดี โดยมีพื้นที่เช่ารวมประมาณ 8,448 ตารางเมตร
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ไดเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ปภานัน จำกัด ในสัดส่วนรอยละ 100 ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรางโอกาสในการขยายธุรกิจ และสร้างผลประโยชน์ร่วม (Synergy) กับธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งไดแก่ ธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพยและธุรกิจโรงแรมบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ไดลงทุนเพิ่มเติมใน บริษัท แสนสิริ เวนเจอร จำกัด (“SV”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดวยการซื้อหุ้นสามัญของ SV ทั้งหมดที่บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด ถืออยูร่อยละ 49 ของทุนที่ชำระแล้วของ SV โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ
ในปี 2553 บริษัท ที.เอส.สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภท Holding Company โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน (กรรมการผูจัดการใหญของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทดังกลาว ได้ทำการซื้อหุ้นจากกองทุนต่างชาติ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 318,174,400 หุน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในแสนสิริ จากเดิมร้อยละ 2.52 เพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 24.10 ของทุนที่เรียกชำระแลว ส่งผลใหกลุ่มนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับแรกของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นับตั้งแตเดือนเมษายน 2553
ในปี 2554 แสนสิริเปิดตัวตราสัญลักษณใหม่ของบริษัทเพื่อยกระดับแบรนด์แสนสิริ
Search Results
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทวางแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ ๆ 17-19 โครงการ รวมมูลค่า 32,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งในกทม. ต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดใหม่ ๆ ที่ยังไม่ได้ไปลงทุน อาทิ พิษณุโลก และลูกค้าต่างชาติ โดยจะพัฒนาคอนโดมิเนียม 9-10 โครงการ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ 7-9 โครงการ คาดว่าทั้งปีนี้จะมียอดขายรวม 30,000–32,000 ล้านบาท และมีรายได้ 35,000 ล้านบาท
“ช่วงครึ่งปีแรกนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรก ที่ได้ร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส มูลค่า 5,000 ล้านบาท หลังจากได้จัดตั้ง บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกัน รวมทั้งจะเปิดตัวโครงการใหม่ในจังหวัด พิษณุโลก ซึ่งนับเป็นการขยายสู่ทำเลภาคเหนือตอนล่าง เพื่อตอบรับกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมอีกด้วย ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าตามแผนธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากบางส่วนที่ได้ดำเนินการไปแล้วเริ่มเห็นผลอย่างรวดเร็ว จากอัตรากำไรในปีที่ผ่านมาที่ เพิ่มสูงใกล้เคียงเป้าหมาย 12%”
นอกจากนี้จะนำกลยุทธ์รุกตลาดแบบดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง หรือใช้โซเชี่ยล มีเดีย ให้มากขึ้น ซึ่งเข้าถึง และดูแลกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม ลดต้นทุนด้วย ขณะเดียวกันจะเน้นบริการหลังการขายผ่านบริษัทลูก คือบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่า และบริหารงานขายโครงการ รวมถึงบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่พักอาศัย เชื่อว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะสร้างอัตรากำไรสุทธิได้ถึง 15%
สำหรับทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปี 58 นี้ มองว่ามีทิศทางที่ดีมาก จากปัจจัยหนุนที่สำคัญ อาทิ แน้วโน้มเศรษฐกิจ ที่คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นกว่าปี 57 โดยจีดีพีน่าจะโตได้ 3.5–4.5% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นใจภาคเอกชนฟื้นตัวตามได้ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลงนั้น มีผลทำให้ประชาชนมีอำนาจในการซื้อสูงขึ้น ด้านผู้ประกอบการก็มีต้นทุนที่ลดลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบอยู่บ้างคือ ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก และการลงทุนของภาคเอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น